13 วิธีดูแลพ่อแม่ทำแล้วชีวิตเจริญรุ่งเรือ ง

13 วิธีดูแลพ่อแม่ทำแล้วชีวิตเจริญรุ่งเรือ ง

1.ไม่ว่าเราจะโตแค่ไหนมีความรู้เยอะเพียงใด อายุก็ยังห่างกับพ่อแม่เท่าเดิม อย่าพย าย ามที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของท่านถึงแม้จะเป็นพฤติกรรมที่ ไม่เป็นผลดีต่อ โ รค เลยก็ตาม เถียงกันไป เราจะเหนื่อยทั้งกาย และปวดทั้งใจให้ค่อยๆแทรกซึมเข้าไป ในชีวิตท่านอย่างเนียนๆ วันหนึ่งที่พ่อแม่เห็นด้วย กับตัวเราเองว่า ทำแบบนี้แล้วสบายตัวขึ้น ท่านจะยอมทำเอง

2. ดูแลพ่อแม่อย่างลูกพึงดู ไม่ใช่อย่างผู้รู้ นักวิชาการ หรือผู้ปกครอง อย่าลืมว่า พ่อแม่ทุกคน ต้องการความรัก ความอบอุ่น และความเคารพจากลูก มากกว่าอะไรทั้งหมด ถึงแม้บางท่าน อาจจะแสดงออกในทางตรงกันข้ามก็ตาม

3. ไม่มีใครอย ากเป็นคนป่วย อย ากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือ อย ากเป็นคนแก่ ที่สู ญเสียความเคารพตัวเอง และ ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ข้อนี้ คนเป็นลูกมักจะมองข้ามมากที่สุด ไม่ว่าท่านจะ ป่ วย หรือ แก่ขนาดไหนก็ตาม ท่านมีสิทธิเต็มที่ ที่จะ ได้รับการปฏิบัติต่อ ด้วยความเคารพ

4. อย่ ายัดเยียดสิ่งที่เราเห็นว่าเหมาะที่สุดกับพ่อแม่ โดยท่านไม่เต็มใจ ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่ เลิศเหลือเกินในสายตาเรา หรือ ชาวโลกก็ตามอย่าบ่นว่า หาคนมาดูแลก็ไม่เอา ซื้อเตียงใหม่ให้ ก็ไม่ชอบ ทำห้องให้ใหม่ ก็ไม่ยอมอยู่ หมอที่เก่งกว่า ตั้งเยอะ ก็ไม่ยอมเปลี่ยนขอให้ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เมื่อความไว้เนื้อเชื่อใจเกิดขึ้น ผู้ใหญ่จะรับความหวังดี จากเรา ด้วยความเต็มใจเอง

5. การเปลี่ยนบทบาทจากผู้ถูกดูแลมาเป็นผู้ดูแล ทั้งทางกาย ทางใจ ทางทุนทรัพย์ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่อาศัยเวลา และ ความเข้มแข็งมหาศาล อย่า โ ท ษ ตัวเอง ถ้าพบว่า มันไม่ง่าย และ ท้อแท้ คิดถึงหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ แล้วจะพบว่า หัวใจของลูก ที่พร้อมจะทำทุกอย่าง เพื่อตอบแทนท่าน ไม่ได้ยิ่งใหญ่น้อยไปกว่ากันเลย

6. ถึงเวลาแล้วที่ต้องรู้เวลา กิน นอน ขับ ถ่ าย ความดัน ปริมาณอาหารและย า และการตอบสนองทั้งหมดต่อสิ่งเหล่านั้น รวมทั้งเบอร์โรงพย าบาล หมอ และ ambulance เพราะเหตุ ฉุ กเฉิน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ข้อมูลยิ่งพร้อม การรักษาพย าบาลก็ยิ่งเป็นผลดี

7. เป็นคนพาพ่อแม่ไปหาหมอทุกครั้ง แรกๆอาจได้รับการป ฏิ เสธ ไม่ให้ไปด้วย ให้พย าย ามแทรกซึม จนท่านชิน ที่มีเรา ไปอำนวยความสะดวก ที่สุดแล้วท่านจะรู้สึกชิน กับความสบายนี้ และเปิดใจให้เรา เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา

8. หากจะจ้างคนดูแลเราต้องแน่ใจที่สุด ว่าเรามีเวลาในการดูแล การทำงานของเขาอย่างใกล้ชิด คนดูแลไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าเรา และไม่ได้มีใจรักพ่อแม่เราอย่างที่เรามีแน่นอน

9. จัดหาทุกอย่างที่พ่อแม่เคยชอบเคยใช้ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้แล้วก็ตาม เช่น เสื้อผ้าที่นานๆ จะมีโอกาสใส่สักครั้งหนึ่ง นอกจากท่านจะรู้สึกว่า เราเอาใจใส่แล้ว ท่านจะยังรู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่า ไม่มีอะไรเสื่อมถอยจนด้อยค่า ใช้ของดีๆ สวยๆ ไม่ได้แล้ว คุณค่าทางใจแบบนี้ประมาณค่าไม่ได้เลย

10. แบ่งหน้าที่กันกับพี่น้อง หรือคนในครอบครัวให้ชัดเจน จะช่วยลดภาระทางกาย และทางใจลงได้มาก อย่างน้อยที่สุด ก็ลดความตึงเครียด ในครอบครัว รวมทั้งลดการดูแลซ้ำซ้อน เช่น การให้ย าซ้ำ อันอาจเป็น อั น ต ร ายได้

11. คุยทิศทางการรักษาและการดูแลกับคนในครอบครัวให้ชัดเจน ก่อนคุยกับหมอ เมื่อหมอเสนอวิธีการรักษาอะไร อย่ ากลัวที่จะถาม หรือ ขอเวลาหมอหาข้อมูลเพิ่มเติม 2nd, 3rd Opinion สำคัญเสมอ อย่าหลับหูหลับตา เชื่ออะไรที่ไม่เข้าใจ และก่อนตัดสินใจอะไรสำคัญทุกครั้ง อย่าลืมหาข้อมูล ของแต่ละทิศทาง และผลข้างเคียง ประกอบการตัดสินใจด้วย

12. ถ้าคุยกับคนในครอบครัวไม่รู้เรื่อง ญาติที่ไกลออกไปหน่อยที่มีความเป็นกลาง จะช่วยไกล่เกลี่ยได้ดีมาก จำไว้เสมอว่าเราอาจเป็นคนที่คิดผิดเองก็ได้ และทิฏฐิมานะไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้น

13. เกิดอะไรผิดพลาดอย่ามัวแต่โทษตัวเองหรือปิดบังความจริงให้รีบแจ้งหมอแจ้งครอบครัวและช่วยกันแก้ไขปัญหาทุกข้อมูลสำคัญกับการรักษาทั้งสิ้น

ขออนุโมทนากับลูกทุกคนที่มีโอกาสดูแลพ่อแม่เมื่อเราทำเต็มที่ใจจะไม่รู้สึกขาดเลยใจจะอิ่มจะเต็มครับดูแลพ่อ แม่ 

แหล่งที่มาRamet

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า