เป็นคนดีได้ แต่อย่ าเป็นคนโ ง่ ดีได้แต่ต้องเอ าตัวรอดเป็น
เป็นคนดีได้ แต่อย่ าเป็นคนโ ง่ ดีได้แต่ต้องเอ าตัวรอดเป็น
การเป็นคนดีนั้น เป็นสิ่งที่ดี และน่ายกย่อง แต่ควรจะเป็นแค่ “คนดี” อ ย่าเป็น “คนโ ง่”
เป็นคนดีได้ ก็ต้องรู้จักเ อาตัวรอดให้เป็น
อย่ าปล่อยให้คนอื่นมา “ทำ ร้ า ย” ตัวเอง
หรือเอ าเปรียบจนตัวเองต้องลำบา กเสี ยเอง
เพราะไ ม่เช่นนั้น การเป็นคนดี ก็คงไ ม่มีความหมายอะไร
สุดท้ายก็ไ ม่สามารถปกป้องตัวเองได้อยู่ดี
หากคุณเป็นคนแบบยังไงก็ได้อะไรก็ดี
นี่แหละทำให้คุณไม่ถูกมองอยู่ในสายตาคนอื่น
อยากได้อะไร คุณก็ให้ได้ ทำผิ ดอะไร คุณก็ไ ม่ติดใ จ
คนอื่นทำไ ม่ดีกับคุณมากี่ครั้งแล้ว คุณก็ยังยอมทน
การเป็นคนมีน้ำใ จไ ม่ได้แปลว่าต้องโ ง่
การเป็นคนดีก็ไ ม่ได้แปลว่าต้องยอมตลอดไป
มีเรื่องเล่าอยู่ว่า นักบวชคนหนึ่ง กำลังนั่งสมาธิฝึกจิต อยู่ริมฝั่งทะเลสาบ
ในระหว่างที่นั่งฝึกอยู่นั้น ท่ามกลางความเงียบ ก็ได้ยินเสียงอะไรสั่นไหวอยู่ในน้ำ
เมื่อนักบวชลืมตาขึ้น ก็มองไปเห็นอะไรสักอย่างที่เคลื่อนไหวในน้ำ
มองดูชัดๆ ก็เห็นแมงป่องตัวหนึ่ง กำลังตะเกียกตะกายอยู่บนผิวน้ำ เพราะกำลังจะจม
นักบวชจึงได้เอื้อมมือไปจับแมงป่องขึ้นมาจากน้ำ โดยไ ม่ทันระวั งได้คิดอะไร
เลยโดนแมงป่องต่อยเข้าที่มือ และเขาก็ได้วางแมงป่องลงที่พื้น จากนั้นก็นั่งฝึกสมาธิต่อ
สักพักเขาก็ได้ยินเสียงแบบเดิมอีก เมื่อลืมตาดูก็พบแมงป่องตัวเดิมหล่นไปในน้ำ
เขายื่นมือไปช่วยมั นอีกครั้ง และก็ยังโดนต่อยเหมือนเดิม และก็เกิดเห ตุการณ์แบบเดิมอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง ชาวบ้านที่ยืนตกปลาอยู่มองดูเห ตุการณ์อยู่พักใหญ่
ก็ได้พูดขึ้นว่า “ทำไมท่านช่างโ ง่ขนาดนี้ ไ ม่รู้หรอว่าแมงป่องชอบต่อยคน”
นักบวชจึงตอบกลับไปว่า “ข้ารู้สิ แล้วก็โดนต่อยไป 3 ครั้งติดกันแล้ว”
ชาวบ้านจึงถามนักบวชต่อว่า “ถ้าท่านรู้แล้ว ทำไมท่านยังจะไปช่วยมัน เพื่อให้ต่อยตัวเองอยู่อีกละ”
นักบวชจึงตอบไปว่า “การ ทำ ร้ า ย คนอื่น อาจจะเป็นนิสัยของแมงป่อง แต่การเป็นคนมีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น ก็เป็นนิสัยของข้าเช่นกัน และข้าจะไ ม่เปลี่ยนนิสัยของตัวเองไป เพียงเพราะนิสัย ดุ ร้ า ย ของแมงป่อง”
ชาวบ้านได้ยินดังนั้น ก็ได้แต่หัวเราะและพูดไปว่า “ท่านเป็นคนมีเมตตา นั่นเป็นเรื่องที่ดี เมื่อท่านรู้จักเมตตาต่อแมงป่องแล้ว ท่านก็ต้องรู้จักเมตตาต่อตัวเองด้วยนะ การจะหยิบยื่นความเมตตาให้คนอื่น ต้องรู้จักวิธีที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน ท่านต้องรู้จักป้องกันตัวเองก่อน ก่อนที่จะยื่นมือไปช่วยเหลือคนอื่น”
คนเราเมื่ออยากจะช่วยเหลือ “คนอื่น” ก็ต้องรู้จักช่วยเหลือ “ตัวเอง” ให้เป็นก่อน
เพราะไ ม่เช่นนั้น คุณจะกลายเป็นคนที่ “ทำ ร้ า ย” ตัวเองเสี ยเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : นุสนธิ์บุคส์ , ห้องสมุดฟลิ้นท์









