เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ อาจได้บุญมากกว่าบ าป
ลูกชายหลายคนอาจเคยมีประสบการณ์โดนพ่อแม่รบเร้าให้ไปบวชกันมาไม่มากก็น้อย ซึ่งถ้าหากพ่อแม่อยากให้บวชเพราะลูกจะได้ศึกษาธรรมก็ดีไป แต่พ่อแม่บางคนก็อยากให้ลูกบวชเพียงเพื่อที่ตนเองจะได้ “เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์”
แต่ลูกชายสามารถบวชแทนพ่อแม่ได้จริงเหรอ?
อันที่จริงแล้วในศาสนาพุทธไม่เคยมีส่วนไหนที่บอกว่าคนเราสามารถบวชแทนกันได้เลย เพราะแม้แต่กฏแห่งกร รมเอง เราก็จะเคยเห็นคำสอนที่ว่า “สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรร ม” หรือก็คือกร รมใดๆ ไ ม่ว่ากรร มดีหรือกร รม ชั่ วย่อมสนองต่อบุคคลผู้กระทำโดยตรง ไ ม่มีอะไรมาลบล้างหรือชดเชยกันได้
ดังนั้นความเชื่ อเรื่องเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ ในแง่หนึ่งมั นจึงอาจเป็นเพียงแค่กุศโลบายที่ชักจูงให้ลูกชายอยากบวชให้พ่อแม่เท่านั้น เพื่อที่พ่อแม่จะได้รู้สึกอิ่มเอมใ จ เวลาเห็นลูกบวช
แต่ในยุคหลังๆ มานี้ความเ ชื่อดังกล่าวได้ถูกทำให้ผิ ดเพี้ ยนไป จึงกลายเป็นว่าพ่อแม่ต่างหากที่กระหายบุญจนต้องบีบบังคับลูกชายให้ไปบวช ซึ่งนั่นก็ไ ม่ใช่ “การทำเพื่อลูก” แต่เป็น “เพื่อตัวเอง” ล้วนๆ ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมาจึงเป็นความว่างเปล่าที่ไม่มีใครได้ประโยชน์ทั้งสิ้น หรือซ้ำร้า ยอาจจะแ ย่ลงกว่าเดิม
เพราะความเชื่ อนี้ยังทำให้พ่อแม่บางคนเข้าใ จผิ ดคิดไปเองว่า “ตนจะทำอะไรก็ได้ ขอแค่ให้ลูกชายบวชล้างบ าปให้ก็พอ” ทั้งที่ความจริงแล้วไ ม่มีบุญใดสามารถลบล้างบ าปได้ อ้างอิงจากหนังสือ “หลักกรร มและการเวียนว่ายตา ยเกิด” โดยอ.วศิน อินทสระ ที่ได้เปรียบเปรยการทำบ าปเหมือนการใส่เกลือลงในตุ่ม การทำบุญจึงเป็นเพียงแค่เติมน้ำลงไปเพื่อเจือจางเกลือเท่านั้น แต่ก็ไ ม่ได้ทำให้เกลือหายไปไหน
ท้ายที่สุดแล้ว บางทีมั นอาจจะเป็นพ่อแม่เองที่ต้องศึกษาพระธรรมคำสอนในศาสนาให้ดีเสี ยก่อน แล้วจึงค่อยเอ่ยปากรบเร้าขอลูกให้ออกบวช เพื่อที่ความเชื่ อผิ ดๆ เหล่านี้จะได้ไ ม่ไปกดทับใครอีก และทุกคนจะได้ประโยชน์จากการบวชนี้อย่างแท้จริง









