ฝากถึงรั ฐ ขอแค่ 3 ข้ อง่า ยๆ คนไทยจะได้รอด
ขอแสดงความเ สียใ จอย่างยิ่ง กับกรณีการจากไปของ น้าค่อ ม ชว นชื่ น อีกครั้งหนึ่งนะครับ ผมเ ชื่อว่าทุกๆ คนก็รักและชื่นชอบในผลงานที่ผ่านมาของน้าค่อมนะ
เรื่องนี้มีอุทาหรณ์ให้เราต้องเรียนรู้และทบทวน เกี่ยวกับมาตรการโร ค c o v i d นะครับ
1. รัฐต้องเน้นย้ำและเข้มงวดเรื่องการปกป้อง “กลุ่มที่มีความเสี่ย งสูง” จะเจ็ บป่ วยหนักและเสี ยชีวิต จากการติดเชื้ อโร ค นั่นคือกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโร คประจำตัว เบ าหวาน คว ามดัน หัวใ จ โ รคอ้ วน เป็นพิเศษ
(ผมสังเกตว่า โดยภาพรวมของสังคมไทยเอง ยังไ ม่ค่อยตระหนักถึงเรื่องนี้เท่าไหร่ ในขณะที่ต่างประเทศที่เข้มงวดมากๆ อย่างอิสราเอล เขาออกกฎระเบียบ เพื่อป้องกันผู้สูงอายุโดยเฉพาะเลย)
2. การฉี ดวัคซี นนั้น เป้ าหมายขนาดนี้คือป้องกันการเ จ็บป่ วยรุนแร งและเสี ยชีวิต (มากกว่าเรื่องการป้องกันการติดเ ชื้อ) จึงควรเร่ งฉี ด ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโร คประจำตัวเร็วขึ้นกว่าแผนที่กำหนดไว้ เนื่องจากสถานการณ์การแพ ร่ระบา ดขยายเป็นวงกว้างและรวดเร็วมากกว่าที่เคยคาดไว้เยอะ
(ตอนนี้ไทยเรากำหนดแผนไว้ที่เดือนมิถุนายน ซึ่งน่าจะมาจากการคาดหวังว่าวัคซี น astrazeneca จากบริษัท siam bioscience จะผลิตได้พร้อมฉี ดตอนช่วงนั้น ในขณะที่เรายังไ ม่กล้าให้ผู้สูงอายุฉี ดวัคซี นของซิโนแวค ซึ่งแผนนี้มีความเ สี่ยงนะครับ ถ้าเกิดการผลิตวัคซี นไ ม่เป็นไปตามคาด ดังนั้น ควรจะต้องรีบจัดหาวั คซี นเพิ่มเติม ทั้งของ astra ที่ผลิตในประเทศอื่นและของยี่ห้ออื่นๆ มาเสริมด่วน แม้จะราคาแพงก็ตาม)
3. ควรยอมรับความจริงกันว่า การแพ ร่ระบา ดระลอกที่ 3 ในเดือนเมษายนเป็นต้นมานี้ เป็นผลจากมาตรการของรัฐเองที่ไ ม่ได้เข้มงวดกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ไ ม่ได้เตือ นประชาชนอย่างจริงจังว่า ห้า มไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ห้ ามจัดกิจก รรมสังสรรค์ต่างๆ ทำให้มีผู้สูงอายุติดเ ชื้อโร คและเจ็ บป่ว ยหนักเป็นจำนวนมากในรอบนี้
ดังนั้น ที่รัฐมีนโยบายให้ใช้มาตรการ “เที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ในเดือนพฤษภาคมนั้น ต้องทบทวนว่า ควรมีกฎเกณฑ์เพิ่มเติมเช่นไร ที่จะทำให้ลดความเสี่ย ง ในการที่ผู้คนโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโร คประจำตัวจะได้รับเชื้ อโร ค จากการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นของคนไทย ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยนะครับ









