พ่อแม่ยิ่งแก่ยิ่งห่วงลูก แต่ลูกยิ่งโตยิ่งห่างหาย
พ่อแม่ยิ่งแก่ยิ่งห่วงลูก แต่ลูกยิ่งโตยิ่งห่างหาย
อย่ากังวลว่า ถ้าคุณจะจากไป อะไรที่จะเกิดขึ้น ก็ต้องเกิดอยู่ดี เพราะเมื่อกลายเป็นผงธุลีไปแล้ว ใครเขาจะยกย่องชื่นชม หรือตำหนิ ประณามอย่างไร คุณจะไป
รู้สึกรู้สาอะไรได้ ลูกของคุณเขาจะเป็นอย่างไรก็ อย่าเป็นห่วงให้มากนักพวกเขา ต่างก็มีจุดหมายและหนทางชีวิตของตนเองจากโลกนี่ไปไปแล้วคุณก็ยังไม่เลิก
เป็นทาสของลูกๆ อีกหรืออย่าคาดหวังอะไรมากจากเด็กๆ
ต่อให้คุณเลี้ยงดูใคร ไว้เพื่อให้เขา ดูแลคุณ เมื่อยามแก่เฒ่า เขาก็ต้องวุ่นวาย กับ
การงานและ ภาระผูกพันต่างๆ เกินกว่าจะมีเวลา มาช่วยเหลือดูแลคุณได้แล้วส่วนลูกจริงๆ นั้น ก็อาจจะกำลังทะเลาะกันเพื่อแย่งมรดก ทรัพย์สมบัติของคุณ
อยู่ ทั้งๆ ที่คุณยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ดีขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะแค่แอบภาวนาให้ คุณอย่าใช้เงินให้มากและรีบจากไปเสียเร็วๆ อย่างนี้ ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป คุณไม่รู้หรอกหรือว่า บรรดาลูกๆ เขาถือว่า ทรัพย์สมบัติของ คุณเป็นสิทธิ์ขาดของเขาไปแล้ว
คุณจึงไม่มีสิทธิ์จะไปกำหนดอะไรได้เลย ในเงินที่เป็นของเขาเข้าใจไหม คนอายุเกิน 60 อย่างคุณต้องเลิกเอาสุขภาพไปแลกกับความร่ำรวยได้แล้ว มีเงิน
เท่าไร ก็ไม่สามารถซื้อสุขภาพคืนมาไม่ได้คุณตอบได้ไหมว่า จะหยุดหาเงินเมื่อใดเท่าไหร่คุณถึงจะบอกว่าพอแล้วร้อย พัน หมื่น ล้าน สิบล้าน พอรึยังไม่ทราบ ต่อให้คุณมีไร่นานับพันไร่คุณก็กินข้าวได้แค่วันละสามจานแม้นมีคฤหาสน์นับ
พันหลังคุณก็ต้องการพื้นที่หลับนอน ยามค่ำคืนเพียงแปดตารางเมตร ดังนั้น
ตราบใดที่คุณยังมี ข้าวปลาอาหารกินอย่างเพียงพอ มีเงินพอใช้สอยได้ทุกวันเพียงเท่านี้ก็ดีแล้วอายุเท่านี้แล้ว
คุณควรอยู่อย่างเป็นสุข ทุกบ้านต่าง ก็มีปัญหาของตนเองอย่ามัวไปคิดเปรียบเทียบแก่งแย่งแข่งดีกัน ไม่ว่าชื่อเสียงฐานะในสังคม หรือความก้าวหน้าของ
เด็กๆ ฯลฯสิ่งที่ควรจะแข่งกัน ท้ากันจริงๆนั้นคือแข่งกันมีความสุข มีสุขภาพดี
และอายุยืนนานส่วนอะไร ที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้ก็อย่าไปฝังอกฝังใจให้ป่วยการและทำลายสุขภาพตัวเองเลยอายุป่านนี้แล้วก็ยังเปลี่ยนมันไม่ได้เลยหลัง 60ปี แล้วอย่างนี้
คุณต้อง ค้นหาหนทางของคุณเองที่จะสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ดีๆ และสุขสดใสขึ้นมา
ให้ได้ตราบใดที่มันทำให้คุณอารมณ์ดีคิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้เป็นสุขทำอะไรก็สุขสนุกกับมันอยู่ทุกวันนั่นก็หมายความว่า คุณได้ผ่านวันเวลาอย่างเป็นสุข แล้วทุก
วันวานที่ผ่านไป คุณจะสูญเสียไป 1 วัน แต่ถ้ามันผ่านไปอย่างเป็นสุข วันนั้นคือกำไรชัดๆ เลยจิตใจที่ดี จะช่วยรักษาโรคภัยได้ถ้าจิตใจเป็นสุขโรคก็จะหายเร็วขึ้น
แต่ถ้าจิตใจทั้งดี ทั้งเป็นสุขด้วยแล้วล่ะก็ความเจ็บป่วยจะไม่มีทางมาแผ้วพานได้ด้วยอารมณ์ที่ดีแจ่มใสอยู่เป็นนิจออกกำลังกายให้เพียงพออยู่กลางแจ้งบ่อยๆ
กินอาหารให้ครบหมู่ได้วิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ เพียงเท่านี้ก็เชื่อได้แน่นอนว่า ชีวิตที่เป็นสุขอีก 20 หรือ 30 ปีจะเป็นของคุณแน่นอนเหนือสิ่งอื่นใด
คุณต้องรู้จักบ่มเพาะและเก็บเกี่ยวความสุขดีๆจากการได้อยู่ ได้เที่ยว ได้คุยกับเพื่อนๆ
เพราะเขาเหล่านี้ จะช่วยให้คุณรู้สึกเยาว์วัยและมีความหมายอยู่เสมอ ขาดพวกเขาเมื่อใดคุณจะต้องรู้สึกสูญเสียอย่างแน่นอนครับอ่านแล้วเห็น “เฉลียงชีวิต”
ในวัยชรากันบ้างมั้ยก็ต้องขอบคุณทั้งเจ้าของความคิดผู้เผยแพร่และทั้งผู้ส่งให้ผม อ่าน ก็อยากบอกว่าอายุเราเลือกไม่ได้ก็จริงแต่ชีวิตแต่ละช่วงชีวิตเราเลือกได้