หน้ากากอนามัย ต้องมีคำว่า VFE เท่านั้นจึงจะป้องโ รคได้จริงหรือ?
หน้ากากอนามัย ต้องมีคำว่า VFE เท่านั้นจึงจะป้องโ รคได้ จริงหรือ ?
อ.เจษฏา ไขข้อข้องใ จ กรณีโลกออนไลน์แชร์ ข้อมูลการเลือกซื้อหน้ากากอนามัย ต้องมีคำว่า VFE เท่านั้นจึงจะป้องโ รคได้ จริงหรือ ?
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทย า คณะวิทย าศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทย าลัย โพสผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา มีคนแชร์เรื่องนี้มาถามเยอะมากเลย แต่ขออภั ยด้วย ติดธุระอยู่ เพิ่งมีโอกาสได้มานั่งเขียนตอบตอนนี้
มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับการเลือกซื้อหน้ากากอนามัย เลยบอกว่า ถ้าไม่ระบุคำว่า VFE ทำให้ป้องกันไวรั สไม่ได้ ไม่ให้ซื้อ ไม่ให้ใส่
จริงๆ ต้องเข้าใ จอย่างนึงก่อนว่า การที่เราใส่หน้ากากอนามัยในช่วงที่มีการแพ ร่ระบ าดของโร คโควิ ดนั้น ก็เพื่อลดการแ พร่เชื้ อโร คออกจากร่างกายเรา ในฐานะที่เป็นพ าหะของเ ชื้อ ทั้งแบบที่มีอาการไอจาม และแบบไม่มีอาการ (แต่มีละอองน้ำลายออกไปได้ เวลาพูดจา)
แต่มันไม่ได้มีหน้าที่หลัก ในการป้องกันการรับเชื้ อโ รคเข้าสู่ร่างกาย อย่างที่หลายคนเข้าใ จผิ ดกัน (ซึ่งถ้าต้องการแบบนั้นจริงๆ คงต้องไปใส่หน้ากาก n95 ในสถานการณ์ที่อยู่ใกล้กับผู้ติดเชื้ อโดยตรง , หรือไม่งั้น ก็ต้องใส่หน้ากากผ้า ทับหน้ากากอนามัยอีกชั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความกระชับ)
ดังนั้น ถ้าหน้ากากอนามัยนั้น มีความสามารถในการกรองไม่ให้ละอองน้ำลายที่เราไอจามออกไป ออกไปสู่ผู้อื่นได้ดีเพียงพอแล้ว ก็สามารถนำมาใช้ได้เลย (หลักการเดียวกับการที่แพทย์ใส่หน้ากากอนามันแบบนี้ สำหรับผ่ าตั ด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำลายตัวเอง ลงไปในแผ ลของคนไข้ระหว่างผ่ าตั ด)
เมื่อดูข้างกล่องของผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยแล้ว อาจจะพบตัวอักษรย่อ ที่บ่งบอกเรื่องความสามารถในการกรอง ของแผ่นกรองหน้ากาก ได้แก่ BFE (กรองเชื้ อแบคทีเ รีย Bacterial Filtration Efficiency) , VFE (กรองเ ชื้อไวรั ส Viral Filtration Efficiency) และ PFE (กรองอนุภาคฝุ่น Particle Filtration Efficiency) ซึ่งเป็นการทดสอบตามมาตรฐาน ASTM F2100
ซึ่งผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยที่ผ่านการทดสอบ PFE แล้ว ก็สามารถจะบอกได้ว่ากรองไวรั สได้เช่นกัน เพราะว่าขนาดของฝุ่นที่ใช้ในการทดสอบนั้นก็มีขนาดเล็กมาก คือขนาด 0.3 ไมครอนเท่านั้น
ขณะที่มาตรฐานของหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นั้น กำหนดต้องทดสอบทั้ง PFE และ BFE แต่ VFE เป็นการทดสอบเสริม ไ ม่จำเป็นต้องทำ แต่บางยี่ห้อที่ทดสอบ VFE อาจต้องการเน้นโฆษณาเพื่อสร้างจุดเด่นของสินค้า (แต่ไม่ใช่ว่า ถ้าหน้ากากไม่มีผล VFE จะห้ามใช้)
ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ อาจจะมีการแอบอ้าง เพียงแค่พิมพ์ BFE , PFE หรือ VFE ข้างกล่องนั้น โดยไม่ได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานจริงๆ ก็ได้
ดังนั้น ที่ถูกต้องมากกว่าก็คือ ให้เลือกซื้อหน้ากากอนามัย ที่ อย. รับรองแล้ว ก็จะมั่นใ จได้ว่า มีคุณสมบัติในการป้องกันการแพ ร่เชื้ อไวรั ส ออกไปพร้อมละอองฝอยของน้ำลายได้ แม้ว่าไม่ระบุข้อมูล VFE ก็ตาม (สามารถตรวจสอบรายชื่อหน้ากากอนามัยที่ได้รับอนุญาตจาก อย.)
#สรุป ถึงหน้ากากอนามัยนั้น จะไม่ได้ระบุ VFE (หรือระบุวัตถุประสงค์อื่น เช่น ป้องกันฝุ่นละออง ป้องกันกลิ่น) ก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันการทะลุผ่านของละอองฝอย และเ ชื้อไวรั สที่ปนมากับละอองฝอยได้ “