อาหารสำหรับผู้ป่ วยโควิ ด ช่วยบรรเทาอาการ
อาหารสำหรับผู้ป่ วยโควิ ด ช่วยบรรเทาอาการ
อาหารสำหรับผู้ป่ว ยโควิ ด ควรต้องคำถึงถึง 3 กลุ่มอาหารหลัก ๆ ได้แก่ อาหารที่ไม่ทำให้อาการแ ย่ลง อาหารที่ไม่เพิ่มโอกาสเสี่ ยงติดเ ชื้อและอาการแทรกซ้อน และอาหารที่ไม่เพิ่มโร คในช่วงป่ว ยโควิ ด ซึ่งอาหารที่ว่าก็มีตามนี้
1. อาหารรสอ่อน
อาหารรสชาติอ่อน ๆ กลาง ๆ เป็นอาหารที่มีความเสี่ย งในการกระตุ้ นการระคายเคืองในหลอดอาหารค่อนข้างน้อย ไม่ก่อให้เกิดอาการไอหนัก ๆ หรือเสี่ ยงมีอาการในระบบทางเดินอาหารอย่างท้องอืดหรือท้องเสี ย เป็นต้น
2. อาหารอ่อน ย่อ ยง่าย
อาหารอ่อน ๆ ที่ย่อ ยง่ายก็เช่น เนื้ อปลา ข้าวต้ม โจ๊ก ต้มเลื อดหมู เมนูเ ต้าหู้ ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ไข่ยั ดไ ส้ เมนูผักทั้งหลายที่ร่างกายไม่ต้องใช้เวลาในการย่ อยนาน ๆ ร่างกายจะได้ดึงพลังงานจากอาหารไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยเลี่ ยงอาการจุกเสีย ดแน่นท้องไปได้ด้วย
3. ไข่สุกวันละ 1 ฟอง
เมนูไข่ทำง่ายและอัดแน่นไปด้วยสา รอาหารมีประโยชน์มากมาย อีกทั้งหากกินเมนูไข่ที่มีผักเป็นส่วนผสมด้วย เช่น ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซี วิตามินต่าง ๆ และส ารต้ านอนุมูลอิสระช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ทั้งนี้ควรกินไข่ที่ปรุงสุก ไม่ยางมะตูม ไม่ใช่ไข่ลวกด้วยนะคะ
4. ผักและสมุนไพร
ในช่วงโควิ ด สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น ขิง ข่า กระชาย ตะไคร้ หอมแดง เป็นที่นิยมมาก และตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยก็แนะนำให้ใช้สมุนไพรที่มีฤท ธิ์เสริมภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้ อไวรั สได้ดียิ่งขึ้น โดยจะรับประทานเป็นสมุนไพรในอาหาร เช่น ต้มยำต่าง ๆ แกงเลียง แกงป่า ผัดขิง ก็ได้ หรือจะดื่มเป็นน้ำสมุนไพรก็ดี ส่วนผักต่าง ๆ แนะนำให้ปรุงด้วยวิธีนึ่ง ต้ม ลวก แทนการผัด จะได้ไ ม่มีน้ำมั นที่กระตุ้ นอาการระคายคอ
5. ผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
วิตามินซีจะช่วยกระตุ้ นภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโควิ ดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น ส้ม ส้มโอ แตงโม สับปะรด มะละกอ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ก่อนรับประทานควรล้างทำความสะอาดให้ดีก่อนด้วยนะคะ
6. ซุปหรือน้ำแกง
เมนูผู้ป่ วยโควิ ดควรจะเป็นอาหารประเภทต้มจืด เมนูน้ำใสที่ซดแล้วคล่องคออย่างแกงจืดตำลึง แกงจืดเต้ าหู้ไข่ ต้มมะระ แกงเลียง ต้มยำน้ำใสที่ปรุงรสไ ม่จัดมาก หรือเน้นใส่สมุนไพรเยอะ ๆ หน่อย เพราะเมนูประเภทนี้กินง่าย ไม่มีน้ำมั นที่อาจทำให้คันคอ ซึ่งอาจกระตุ้ นอาการไอให้หนักขึ้น
7. อาหารกระป๋อง
เช่น ปลากระป๋อง ปลาทูน่าในน้ำแร่ หรืออาหารกระป๋องอื่น ๆ ที่ผ่านกระบวนการฆ่ าเชื้ อที่ทันสมัย ป้องกันเชื้ อแบ คทีเ รียปนเปื้อ นในอาหาร
8. อาหารแ บคทีเรี ยต่ำ
อาหารแบ คทีเ รียต่ำ (low-bacterial diet) ก็คืออาหารที่ผ่านการปรุงสุก สะอาด ผ่านความร้อนที่ช่วยลดการปนเปื้อ นของเชื้ อโ รคต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะลดความเสี่ย งอาการท้องเสี ย ท้องเดินได้ โดยเฉพาะในผู้ป่ว ยโควิ ดที่มีอาการท้องเ สียอยู่แล้ว
เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่ว ยโควิ ด ดื่มน้ำอะไรได้บ้าง
1. น้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง
น้ำอุ่นจะช่วยละลา ยเส มหะได้ดีเยี่ยม ทำให้รู้สึกชุ่มคอ และช่วยลดความเ สี่ยงการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใ จ ไม่กระตุ้ นให้เกิดน้ำมู กและเส มหะในลำคอเยอะ ๆ ได้ อีกทั้งการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยระบายความร้อนในร่างกาย ช่วยลดไข้ได้อีกทาง
2. น้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งมะนาว
ถ้าเบื่อจะดื่มน้ำอุ่นเปล่า ๆ ลองเติมน้ำผึ้งมะนาวไปลงไปหน่อยก็ได้ เครื่องดื่มนี้จะช่วยบรรเทาอาการไ อ อาการเ จ็บคอ ละลายเส มหะ และช่วยลดการอักเส บในลำคอได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้า มให้เ ด็กอายุต่ำกว่า 12 เดือนดื่มน้ำผึ้งมะนาวเด็ดขาดนะคะ
3. น้ำขิง
สรรพคุณของขิงคือช่วยแก้หวัด แก้ไข้ แก้ไอ ขับเส มหะ แก้ท้องอื ด และบรรเทาอาการคลื่นไ ส้อาเจี ยนได้ด้วย โดยจะดื่มเป็นน้ำขิงต้ม หรือจะฝานขิงสดบาง ๆ ใส่น้ำร้อนดื่มแล้วดื่มเป็นชาขิงก็ได้
4. น ม
หลายคนอาจสับสนว่าหากมีอาการไ อแบบแห้ง ๆ หรือไ อแบบมีเส มหะก็ไม่ควรดื่มน ม ทว่าการดื่มน มไม่ได้มีผลกระทบกับระบบทางเดินหายใ จแต่อย่างใด และน มก็เป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยส ารอาหารมีประโยชน์ มีแคลเซียมสูง มีโปรตี น มีวิตามินต่าง ๆ ผู้ที่มีอาการไ อ เจ็ บคอ แล้วรับประทานอาหารได้น้อยลง พอดื่มน มก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับส ารอาหารในหมู่หลัก ๆ ได้ดี
แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกดื่มน มอุ่น ๆ หรือน มที่ไม่เย็นนะคะ เพราะความเย็นอาจทำให้จมูกบ วม ทางเดินหายใจระคายเคืองได้
อีกทั้งในคนที่ดื่มน มแล้วรู้สึกเหนีย ว ๆ ในคออยู่บ่อย ๆ หรือดื่มน มแล้วท้องเ สีย ดื่มน มแล้วท้องอืด หลีกเลี่ยงการดื่มน มไปก่อนก็ได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทย าลัยมหิดล
โรงพย าบาลจุฬา สภากาชาดไทย
โรงพย าบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนอ งแขม
โร คปอ ดและทางเดินหายใ จ หมอวินัยโบเวจา
BBC