5 สิ่งไม่ควรทำกับคนรัก เพราะสุดท้ายก็ทำให้เลิกกัน
5 สิ่งไม่ควรทำกับคนรัก เพราะสุดท้ายก็ทำให้เลิกกัน
1. เงียบ
การเงียบไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเลย โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ของคู่ชีวิต จริงอยู่ที่พอต่างคนต่างโมโห ต่างคนต่างงอน ก็เลยไม่อ ย า กพูดกันขึ้นมา หรือพูดไปก็เปล่าประโยชน์ แต่การเงียบก็เหมือนการหนีปัญหา
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ถูกแก้ไข หรือคลี่คลายเลย เพียงแต่หมกเอาไว้จากการไม่พูดเท่านั้นเอง คิดดูว่าคนสองคนทะเลาะกัน มีปัญหากัน แต่ต่างคนต่างเงียบ ไม่พูดไม่จากัน แล้วปัญหาจะหมดไปได้อย่ างไร
ความเงียบไม่ใช่อาวุธ แค่เป็นเครื่องมือแก้เผ็ดอีกฝ่ายหนึ่งมากกว่า คิดดูว่าเมื่อฝ่ายหนึ่งโกรธ อ ย า กหาเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับเงียบ ไม่ยอมพูดยอมจา ยึดคติใช้ความเงียบสงบความเคลื่อนไหว
คนที่โกรธอาจถึงขั้นอกแตก ต า ย ไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้ารักกัน เวลาเกิดปัญหาขึ้นอย่ า เงียบ เด็ดขาด หันหน้าเข้าหากันดีที่สุด แม้จะโกรธหรือใช้อารมณ์เถียงกัน แต่ก็นำไปสู่การแก้ปัญหาได้ แต่ความเงียบกลับไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
2. ไม่พูดคำว่า เลิก
เมื่อสถานะของคุณทั้งสองคือครอบครัว คือคู่ชีวิต ขุดดินแล้วฝังกลบการขอ เลิก ไปได้เลย ชีวิตคู่คือการมีกันและกัน และประคับประคองกันไปจนถึงที่สุด ต่างฝ่ายต่างต้องวางทิฐิ
อารมณ์ และตัวตนลง เพื่อนำพาชีวิตคู่ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะฉะนั้นคำว่า เลิก ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับการใช้ชีวิตคู่ ถ้าตอนเป็นแฟนใครที่ใช้เรื่องนี้ขึ้นมาพูดบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย พอแต่งงานแล้ว เก็บนิสัยแบบนี้เข้ากรุไปเลย
ลองคิดดูต่างฝ่ายต่างกำลังโกรธ ไม่ว่าจะทะเลาะ ขึ้นเสียง เงียบหรืออะไรก็ตาม แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่า เลิก มันเหมือนเป็นการโหมไฟโกรธให้ยิ่งเร่งปฏิกริ ย า ได้เร็วขึ้น
ครั้งแรกอาจรับได้ งอนง้อกันตามสมควร บ่อยครั้งเข้าเผลอ ๆ อาจพาลจะเลิกกันจริง ๆ ไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่พูดเรื่องนี้เป็นดีที่สุด หาทางแก้ไขปัญหา หาทางออกให้ทุกอย่ างมันลงตัวจะดีที่สุด
3. ขุดคุ้ยเรื่องเก่า
เป็นความสามารถส่วนตัวของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ สำหรับการขุด คุ้ย แคะเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาเป็นชาติแล้ว ออกมาพูดเมื่อ ย า มโกรธ หรือบางที่ฝ่ายชายก็มีบ้าง ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายอะไร
แต่คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าการขุดเอาเรื่องเก่าตั้งแต่ปีมะโว้มาพูด ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ทั้ง ๆ ที่เรื่องนั้นอาจคลี่คลายไปแล้วก็ได้ ไปขุด ไปคุ้ยมันขึ้นมาอีกให้อีกคนเจ็บใจเปล่า ๆ
แม้บางครั้งเรื่องที่ทะเลาะกันอยู่นี้ เกิดจากเรื่องเก่าที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน ใจก็อ ย า กจะยกเรื่องเก่ามาอ้างอิงเสียเหลือเกิน อย่ าลืมค่ะ ว่าเรื่องนั้นมันจบไปแล้ว
เปล่าประโยชน์สุด ๆ ทะเลาะแลกเปลี่ยนอารมณ์กันเฉพาะเรื่องไปดีกว่า การโยงใยโน่นนี่ไปเรื่อย ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลย ทะเลาะกันเป็นเรื่อง ๆ ไปก็ ย า กจะแก้ไขแล้ว อย่ าเอาอะไรมาพัวพันให้ยิ่งแก้ ย า กเข้าไปใหญ่เป็นดีที่สุด
4. ไม่ทำ ร้ า ย ร่างกาย และ จิตใจ
ข้อนี้สำคัญ ขอกา ด อ ก จันไว้สิบ ด อ ก เป็นคู่ชีวิตกันแล้วถึงแม้จะโมโหโทโสกันแค่ไหน อ ย า กจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บแค้นแค่ไหน แต่การทำ ร้ า ย ทั้งร่างกายและจิตใจเป็นเรื่องที่ให้อภัยกันไม่ได้เลย แค่ทะเลาะกันก็ทำ ร้ า ย จิตใจกันมากพอแล้ว
ถ้ายิ่งมีการลงไม้ลงมือกันด้วย ยิ่งทำให้ทุกอย่ างแย่ไปหมด หันหน้ามาแก้ปัญหากันแบบดี ๆ ประเภทที่ใครพูดให้อีกฝ่ายเจ็บแค้นได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะนั้น ไม่น่าใช่ความคิดของคนรักกันเลย
อย่ าลืมว่าปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และเมื่อโกรธ เมื่อโมโห แน่นอนว่าต้องอ ย า กระบาย ต้องอ ย า กให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่ก็ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องทำ ร้ า ย กัน แค่ระบายและปรับความเข้าใจให้ทุกอย่ างเป็นไปในทางที่ดีขึ้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว
5. อย่ าพ ย า ย า มทำให้มันใหญ่โต
บางครั้งการทะเลาะกันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องโต อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองข้ามไปได้ แต่ไม่อ ย า กมองข้าม หรือบางทีก็ขัดหูขัดตาเสียจนต้องบ่นออกมาดัง ๆ ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อย
อย่ าง ย า สี ฟั น ตะกร้าผ้า หรืออะไรก็ตามที่เล็กน้อยแต่เคยพูดมาหลายครั้งก็ยังไม่ดีขึ้น ทางที่ดีเลิกพูดไปเลยค่ะ ในเมื่อไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น หรือปรับตัวเลย
ก็ไม่ควรเสียเวลามานั่งบ่น นั่งทะเลาะกันอีก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็ไม่น่าจะมีผลต่อการใช้ชีวิตคู่เท่าไรอยู่แล้ว มองข้ามไปบ้าง หรือทำเองบ้าง น่าจะเป็นทางแก้ที่ดีกว่า