12 วิธีลดจิ ตฟุ้ งซ่ านเปลี่ยนเป็นคนมองโลกให้เป็นสุข
12 วิธีลดจิ ตฟุ้ งซ่ าน ขจัดความกังวล เปลี่ยนเป็นคนมองโลกให้เป็นสุข
ลองเ ช็กอาการกันก่อนว่าที่เราเป็นอยู่ใช่ความคิดฟุ้งซ่าน หรือความกังวลที่เกินขอบเขตไปไหม เพราะนอกจากอาการทางใ จ อย่างคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้ว ความวิตกกังวลหรือคิดฟุ้งซ่านอาจส่งผล ให้เกิดอาการทางกายได้ด้วย ตามนี้เลย
1. กล้ามเนื้ อตึง ปว ดเมื่อย
2. ปว ดศีรษะบ่อย
3. กระสับกระส่าย ไ ม่มีสมาธิทำงาน หรือเรียน
4. เบื่ ออาหาร
5. อาหารไ ม่ย่ อย
6. ท้องเสี ย ท้องไ ส้ปั่นป่วน
7. เหนื่อยง่าย รู้สึกเหนื่อยล้าไ ม่หาย
8. นอนหลับยาก หรือนอนไ ม่หลับ
ทั้งนี้ ในบางคนที่เครี ยดและวิตกกังวลมาก ๆ อาจมีอาการหนักกว่านี้ เช่น ใ จสั่น ตัวสั่น เหมือนจะเป็นลม เหงื่อออกมาก รู้สึกอึดอัด หายใ จไ ม่สะดวก ซึ่งหากมีอาการถึงขั้นนี้ควรไปพบแพทย์โดยด่วน
เมื่อสำรวจอาการของตัวเองแล้วตรงหลายข้ อ ก็ได้เวลามาหาวิธีเลิกความคิดฟุ้งซ่าน กังวลกับทุกอย่างในชีวิตแบบง่าย ๆ แค่ทำตามนี้
1. ฝึกควบคุมลมหายใ จ
แค่โฟกัสมาที่ลมหายใ จของตัวเอง ตั้งใ จสูดลมหายใ จเข้าลึ ก ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนออกช้า ๆ แค่นี้ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายไปได้มากแล้ว แถมยังเป็นการเรียกสมาธิแบบง่าย ๆ ด้วย
2. ลุกออกไปจากความฟุ้งซ่าน
ถ้านั่งจมอยู่กับความกังวล คิดฟุ้งซ่านไปเยอะแยะ ให้ลุกออกไปสูดอากาศทันทีที่รู้สึกตัวเลยค่ะ โดยอาจจะออกไปเดินเล่น ชมนกชมไม้ ดูรถที่วิ่งผ่านไป-มาก็ได้ ปลดปล่อยความคิดจมปลักของตัวเองออกไปก่อน
3. พาตัวเองเข้าสังคม
มนุษย์จำเป็นต้องมีสังคม เพราะเราต้องพึ่งพากันและกัน ดังนั้น อย่าสร้างโลกส่วนตัวแล้วอยู่แต่ในนั้น ไ ม่ติดต่อใคร ไ ม่คุยกับใคร เพราะอยู่เงียบ ๆ คนเดียวก็ไ ม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นจริงไหมคะ ลองแชตกับเพื่อน วิดีโอคอลหาญาติพี่น้อง เปิดโอกาสให้ตัวเองได้แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นดูบ้าง
4. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
หากมีสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ ๆ ก็แบ่งเวลามาเล่นกับพวกเขาบ้าง แล้วคุณจะพบว่า ช่วงเวลาที่อยู่กับสัตว์เลี้ยงแสนรัก เหมือนได้พลังบวก ได้ปลดปล่อยทุก ข์ความกังวลและความทุก ข์ไปชั่ วขณะหนึ่งเลย
5. คิดบวก
ลองเปลี่ยนมุมมองมาคิดในแง่บวกดูบ้าง หรืออย่างน้อยก็คิดอะไรที่สร้างสรรค์ เช่น ปัญหาที่เราเจอยังอาจจะดูเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับคนที่ลำบา กกว่า หรือหากตกงาน ลองคิดดูบ้างก็ได้ว่านี่อาจเป็นโอกาสให้เราได้กลับมาแอ็คทีฟตัวเองให้มากขึ้น และเราอาจเป็นคนที่เก่งได้มากกว่าที่เราคิดซะอีก
6. บอกตัวเองให้หยุดฟุ้งซ่าน
หากความคิดในหัวสับสนวุ่นวายไปหมด ลองตะโกนคำว่า “หยุด ” ในใ จสักที ไ ม่แน่ว่าวิธีนี้อาจจะช่วยหยุดความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นได้จริง ๆ ก็เป็นได้
7. หากิจกร รมที่ชอบทำ
ดูซีรีส์ ฟังเพลง อ่านนิยาย ปลูกต้นไม้ เก็บบ้าน หรือทำอาหารเมนูใหม่ ๆ ชอบทำกิจกร รมไหนก็จัดไปอ ย่าให้เสี ย ดีกว่าเ อาเวลาไปนั่งจมอยู่กับความกังวลที่ไ ม่รู้จบ
8. โฟกัสกับสิ่งที่ทำและอยู่กับปัจจุบัน
หลายครั้งที่จิตเราหลุดไปกับความฟุ้งซ่านเพราะเราหลุดโฟกัสกับปัจจุบันนี่แหละค่ะ ดังนั้น อย่ าปล่อยให้ตัวเองเหม่อลอย แต่ให้เพ่งสมาธิไปกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ หรือหากตกอยู่ในภวังค์ กำลังกังวลไปเรื่อย ก็รีบดึงตัวเองมาสู่ปัจจุบันว่ากำลังทำอะไร อยู่ตรงไหน หรือกำลังมองอะไรอยู่
9. บรรย ายสิ่งที่ตัวเองกังวลด้วยการเขียน
กังวลกับเรื่องไหน ฟุ้งซ่านไปกับเรื่องอะไรบ้าง หยิบปากกาแล้วเขียนบรรย ายออกมาให้หมดไปเลย จากนั้นลองอ่านทวนดูอีกสักครั้ง แล้วถือโอกาสแยกแยะให้ออกว่า ความกังวลของเราเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขจริง ๆ หรือเป็นความกังวลล่วงหน้าไปเอง ทั้งที่ยังไ ม่เกิดปัญหาขึ้นเลย
10. วางแผนชีวิตให้ตัวเอง
ถ้าความกังวลจนฟุ้งซ่านของคุณเป็นเพราะรู้สึกว่าทำอะไรไ ม่ทัน งานเยอะ เรื่องเรียนแยะไปหมด ลองตั้งสติแล้ววางแผนชีวิตตัวเองใหม่ดูไหม จัดลำดับความสำคัญในสิ่งที่ต้องทำลิสต์เป็นข้ อ ๆ แล้วดำเนินตามตารางนั้นไป ชีวิตจะได้กลับเข้าสู่โหมดปกติ ไ ม่ต้องฟุ้งซ่านให้เหนื่อย
11. ใช้ธรรมะเข้าช่วย
หากจิตใ จฟุ้งซ่าน ว้าวุ่นนัก อยากให้ลองมาทางสายธรรมะ โดยอาจจะนั่งสมาธิ ฝึกสติปัญญา หรือสวดมนต์ ฟังธรรมะก็ได้ ไ ม่ว่าจะวิธีไหนก็น่าจะช่วยให้จิตใ จ สงบขึ้นบ้างล่ะ
12. พบจิตแพทย์
ถ้าความกังวลและฟุ้งซ่านรบกวนชีวิตจนเกินไป กระทบไปทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ทำให้เรามีความสุขเหมือนเดิมไ ม่ได้ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ หรือลองโทร สายด่วนสุขภาพจิต ก่อนก็ได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสา รชีวจิต, psychologytools, verywellmind, psychologytoday, คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา