ความเชื่ อโบราณ ที่ว่ากันว่า ไม่เ ชื่ออย่ าลบหลู่
ความเชื่ อโบราณ ที่ว่ากันว่า ไม่เ ชื่ออย่ าลบหลู่
เชื่ อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินความเชื่ อโบราณที่สอนต่อๆ กันมาว่าห้ ามทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะจะเกิดเรื่องไม่ดี
ห้า มนอนทับตะวัน
การนอนทับตะวัน หมายถึง การนอนหลับในช่วงเย็นจนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งมักเป็นช่วงเวลาหลังจากที่เด็กๆ กลับจากโรงเรียน และอาจเกิดความอ่อนเพลีย ซึ่งหากปล่อยให้นอนหลับไปยาวๆ และตื่นขึ้นมา ก็อาจจะทำให้เด็กหลับยากในตอนกลางคืน และอาจติดนิสัยการนอนเช่นนี้
คนโบราณจึงนำอุบายมาขู่ว่า ห้า มนอนทับตะวัน ไม่เช่นนั้นวิญญ าณที่สิงอยู่ในตัวคน จะล่องลอยออกจากร่างได้เมื่อเวลาหลับ
ห้ ามตัดเล็บตอนกลางคืน วิ ญญ าณบรรพบุรุษจะอยู่ไม่เป็นสุข
ในสมัยก่อนการตัดเล็บนั้น ไม่ได้มีอุปกรณ์ตัดเล็บที่ใช้งานได้แบบสะดวกสบายอย่างในปัจจุบัน จึงต้องใช้มี ดเล่มเล็กๆ แทน ซึ่งการตัดเล็บโดยใช้มี ดเล่มเล็กๆ ในเวลากลางคืนอาจจะทำให้เกิดอุบั ติเห ตุอย่างการถูกมี ดบา ดได้ เนื่องจากในสมัยก่อนก็ยังไ ม่ได้มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้ตะเกียงน้ำมั น ซึ่งแสงสว่างก็อาจจะไม่เพียงพอ จึงเกิดเป็นโบราณอุบายดังกล่าวขึ้น
ห้ ามตากผ้าข้ามคืน กระสือจะเช็ดปาก
เพื่อไม่ให้เด็ กลืมเก็บผ้าที่ตากไว้ จึงเกิดโบราณอุบายนี้ขึ้น เพราะในสมัยก่อน ผ้าส่วนใหญ่เป็นผ้าที่ทอมาจากฝ้ายทั้งสิ้น กว่าจะทอเสร็จแต่ละชิ้นแต่ละฝืนก็ใช้เวลานาน จึงอาจทำให้ผ้าเก่าเร็ว ซึ่งการตากผ้าข้ามคืนนั้นอาจจะทำให้ผ้าเปียกฝน หรือน้ำค้าง หรืออาจถูกขโมยได้
ให้ก้าวขึ้นหรือลงบันไดทีละขั้น อย่ าก้าวทีเดียวสามขั้น จะทำมาหากินไม่ได้
เนื่องจากบ้านในสมัยก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่ยกพื้นสูง และมีบันไดไว้นอกบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะด้านล่างโปร่งโล่ง มีราวจับเพียงด้านเดียว หรืออาจไม่มีเลย จึงต้องใช้ความระมั ดระ วั งในการขึ้น-ลง จึงเกิดเป็นโบราณอุบ ายไว้ใช้สอนเพื่อไม่ให้เกิดอันตร ายจากการขึ้นบันได เพราะอาจพลัดตก และได้รับบา ดเจ็ บได้
ห้า มกวาดบ้านตอนกลางคืน เพราะจะเป็นการกวาดเงินกวาดทองไปด้วย
เนื่องจากในสมัยก่อน บ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านที่ยกพื้นสูง ทั้งยังปูพื้นบ้านด้วยแผ่นไม้ทำให้เกิดร่องระหว่างรอยต่อ ซึ่งการจะกวาดบ้านในเวลากลางคืนนั้นอาจทำให้เผลอกวาดของชิ้นเล็กๆ จนหล่นไปตามร่อง และหาไม่เจอได้
ขอขอบคุณข้อมูล :กรมส่งเสริมวัฒนธรรม