5 ข้ อ คิ ด เ ตื อ นสติ คนสู้ชีวิต อ่ า นเถอะ ถ้ายังรักตัวเอง

5 ข้ อ คิ ด เ ตื อ นสติ คนสู้ชีวิต อ่ า นเถอะ ถ้ายังรักตัวเอง

1. อย่าหักโหมทำงานหนัก จนลืมดูแลรั กษ าสุขภาพของตัวเอง

บริษัทเขาคงไม่เสียใจ หรือเสียดาย จากการต า ยของเราอย่างแน่นอน อย่างมากเขาก็คงส่งพวงหรีด และเ งิ นค่าช่วยเหลือทำศ พ ให้ ถ้าเราทำงานจนล้มป่ ว ย หรืออาจจะต้องเสี ย ชีวิ ตในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น

บริษัทก็จะหาคนใหม่มาแทนที่เราได้ในไม่ช้า แต่การสูญเสียของเรา มันกระทบต่อคนในครอบครัวมาก บางคนที่เป็นหัวเรือใหญ่ของครอบครัว การจากไปของเขา กลับกลายเป็นการทิ้งภาระมากมายมหาศาลเอาไว้ให้กับครอบครัว เช่น หนี้สิน หรือการข า ดรายได้

ดั งนั้ น จงอย่าคิดว่า บริษัทจะตกที่นั่งลำบากถ้าไม่มีเรา คนที่ลำบากคือคนในครอบครัวของเราต่างหาก จงอย่าหักโหมจนต้องล้มป่ ว ย ทำงานให้เต็มที่และดีที่สุดก็น่าจะเพียงพอแล้ว

2.อย่ากลัวกับการเปลี่ยนแปลง

ในยุคนี้ การเปลี่ยนแปลงเกิ ดขึ้นทั้งในแง่บวกและแง่ลบอย่างรวดเร็วมาก หลาย บริษัทที่เคยใหญ่โต และมั่นคงมาย าวนานกว่า 20-30 ปี กลับล้มลงไม่เป็นท่า หลายแห่งปิดตัวลงไป ก็มีเยอะ

แต่ก็มีอีกหลายบริษัทเช่นกัน ที่ปรับตัว และเปลี่ยนแปลงได้ไว เช่น บางบริษัทเพิ่งจะตั้งไข่ได้ไม่กี่ปี ก็สามารถเติบโตเคียงข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอายุกว่า 40-50 ปี ได้

พวกเราก็เหมือนบริษัท ถ้าเราเพิกเฉย เมินเฉยต่อการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ใส่ใจที่จะพัฒนาตนเอง ในไม่ช้าเราก็จะถูกเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

เพราะในแต่ละปี จำนวนพนักงานที่ถูกทดแทนโดยเครื่องจักร และ AI มีจำนวนสูงขึ้นทุกปี และการปลดพนักงานออกมีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย

ถ้าเรารอ หรือไม่กล้าที่จะเปลี่ยน หรือไม่พัฒนาตนเอง อีกไม่นานก็คงจะถูกระบบ หรือเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ และในท้ายที่สุด โอกาสในการหางานทำ ก็แทบจะเป็นศูนย์

3.อย่าทำงาน พอผ่าน เพราะงานของเรา คือภาพพจน์ของเราที่คนอื่นๆ มองเห็น

มันก็ใช่ ที่ว่า บางวันเราอาจจะเหนื่อย บางวันเราอาจจะเซ็งเจ้านาย บางวันเราอาจจะอารมณ์ไม่ดี แต่ก็ไม่ควรเอาเ รื่ อ งเหล่านั้นไปลงกับผลงานที่เรากำลังจะทำ หรือต้องทำ

เพราะการทำงานด้วยอารมณ์ที่แปรปรวน หรืออารมณ์ที่ขุ่นมัว ยิ่งจะทำให้งานออกมาแ ย่ หรือเสียหายได้ ชิ้นงานแต่ละงานที่ผ่านมือเรา ไม่ว่าจะเป็นงานง่าย งานเล็กๆ หรือ งานใหญ่ๆ เราล้วนต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับทุกงานทั้งสิ้น

เพราะทุกชิ้นงานที่ทำโดยเรา คนอื่นเขามองออก เขาสามารถรู้ได้ว่า เราทำด้วยความตั้งใจ และเต็มที่กับมันหรือเปล่า ภาพลักษณ์ภายนอก หน้าตาหรือการแต่งกายสำคัญก็จริง แต่ภาพลักษณ์จากผลงานที่เราทำนั้นสำคัญยิ่งกว่า

4.อย่ากลัวกับการเริ่มต้นใหม่

ความเคยชิน ความสบาย มันน่ากลัว ซึ่งหลายคนเลือกเดินทางนี้ เพราะรู้สึกว่าปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่า ในโลกของการทำงานยุคนี้ ความปลอดภัยในหน้าที่การงานไม่มีจริงอีกต่อไปแล้ว

งานที่ทำๆ กันอยู่วันนี้ พรุ่งนี้อาจจะไม่มีแล้วก็ได้ เ รื่ อ งของความเคยชิน ความสบาย ถ้า เ ส พ ติดมันอยู่นานเกินไป มันจะทำให้เราตกหลุมเข้าไปอยู่ในกล่องใบเล็ก กล่องที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะมอง หรือคิด เพื่อที่จะเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ ๆ

ที่สำคัญ สิ่งใหม่ ๆ อาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดหรือกังวล มองสิ่งใหม่ คือ เ รื่ อ งท้าทาย และ ให้เ รื่ อ งท้าทายนี้ ถูกจัดการด้วยมันสมองและความสามารถของเราดีกว่า

ถ้าเราคิดแบ บนี้ และทำแบ บนี้ได้ การเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ ๆ เราก็จะไม่กังวล เผลอ ๆ ทำได้ดีกว่าที่คิดอีกด้วย ผลลัพธ์ของการทำในสิ่งใหม่ ๆ บ่อย ๆ จะทำให้เราได้เจอกับโอกาสใหม่ๆ เพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ หรือได้งานใหม่ที่ง่ายยิ่งขึ้น

5. อย่าหยุดที่จะเรียนรู้

คนที่หยุดเรียนรู้ เท่ากับว่า เขาได้ทำลายอนาคต และอาชีพของเขาไปเรียบร้อยแล้ว ยิ่งตอนนี้ ความรู้มีการ update ตลอดเวลา

ถ้าเราจะก้าวให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลง หรืออย า กจะอยู่แนวหน้าในสายอาชีพของเรา เรายิ่งต้องไขว่คว้าหาความรู้เหล่านั้นทันที Lifelong Learning คือ การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด

ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ก็ตาม ไม่มีใครแก่เกินเรียน และไม่มีใครเด็กจนจะเรียนเ รื่ อ งย ากๆ ไม่ได้ เรียนเถอะครับ แต่เราก็ต้องรู้ว่า เรียนเ รื่ อ งอะไร เกี่ยวกับงานเราไหม

เราจะใช้ประโยชน์จากที่เรียนนั้นอย่างไร ไม่มีใครมีชีวิตที่แ ย่ลงจากการเรียนรู้ แต่คนที่เขาแ ย่ลง เกิ ดจากการเรียนไป แต่ไม่รู้จะเอาไปใช้อย่างไรมากกว่า

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า